ระทึกกลางดึกชายวัย 39 ปีคลุ้มคลั่งบุกทุบกระจกป้อมยามตำรวจจุดไฟเผาพลเมืองดีผ่านมาแจ้งรวบตัวได้ทันควัน
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้ไม้ทุบกระจกบริเวณป้อมยามตำรวจจุดบริการประชาชนสี่แยกถนนสายรอบเมืองข้างปั๊มน้ำมัน ปตท.ในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู และได้เข้าไปด้านในป้อมจุดไฟเผา จากนั้น พ.ต.ต.วิวิธชัย ไชยแพทย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ. เมืองหนองบัวลำภู พร้อมด้วยสายตรวจ 191 หน่วยกู้ภัยคุณธรรมหนองบัวลำภู และรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองหนองบัวลำภูได้รุดไปตรวจสอบ ทราบชื่อคนร้ายภายหลังว่าคือนายสุพิชิต ชาวนะ อายุ 39 อยู่ที่ 300/653 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดนเจ้าหน้าที่และพลเมืองดีวิ่งไล่จับกุมตัวไว้ได้ ตรวจสอบบริเวณป้อมตำรวจกระจกทั้ง 3 ด้านโดนทุบแตกและด้านในมีควันไฟพวยพุ่งซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงไว้ได้ทัน
ในที่เกิดเหตุพบนางสาวพรพิมล สองศรี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301 หมู่ 7 บ้านหนองหว้าน้อย ตำบลหนองหว้า อำเภอเมืองจังหวัดหนองบัวลำภู พลเมืองดีซึ่งขณะนั้นได้ขับรถผ่านมาเห็นคนร้ายกำลังใช้ไม้ฟาดที่บริเวณกระจกจึงได้ตะโกนถามว่าทำอะไรคนร้ายหันมายกไม้ขึ้นเหมือนจะทำร้าย นางพรพิมลฯ จึงได้ขับรถออกไปและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาที่เกิดเหตุและจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุนายสุพิชิต ชาวนะ ไปสอบปากคำที่ สภ. เมืองหนองบัวลำภู ซึ่งนายสุพิชิตฯพูดวกไปวนมาไม่รู้เรื่องเหมือนกับคนเมาอะไรบางอย่าง แต่จับใจความได้ว่าไม่ชอบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบในกระเป๋าพบบัตรประชาชนซึ่งตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจคิดว่าป็นบุคคลวิกลจริต แต่ตรวจสอบในกระเป๋าไม่พบบัตรผู้ป่วยแต่อย่างใด
ทางด้าน พ.ต.ต.วิวิธชัย ไชยแพทย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ. เมืองหนองบัวลำภู ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าต้องรอให้ผู้ต้องหาได้พักผ่อน และอยู่ในสภาพปกติก่อนจึงจะสอบปากคำได้ ซึ่งตอนนี้พูดจาเหมือนคนเมาและพูดไม่รู้เรื่อง ขณะนี้ได้ควบคุมอยู่ในห้องขัง ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ทำให้เสียทรัพย์ ไว้ก่อนหลังจากนั้นจะได้รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบ และจะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมที่หลัง ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป