แม่ค้าทุเรียนเจอชายวางเงิน 20 บาทหยิบทุเรียนแล้วเดินหนีสอบถามเจอควักมีดจะทำร้าย
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเจ้าของร้านทุเรียน นำคลิปกล้องวงจรปิดโพสต์ในโลกโซเชียล มีชายสวมกางเกงขาสั้นสียีนต์ เสื้อแขนยาว สวมหมวกเดินไปที่ร้านขายทุเรียน
โดยมีเจ้าของร้านผู้หญิง 2 คนวิ่งตามมา ก่อนชายคนดังกล่าวจะโยนทุเรียนทิ้งทั้งแพ็ค แล้วเดินกลับมาหน้าตาเฉย ฝ่ายเจ้าของทุเรียนจึงเดินตามมาต่อว่า และมีเสียงในคลิปบอกว่า ถือเงินมา 20 บาทจะมาซื้อทุเรียนทั้งแพ็คไม่ได้ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบแม่ค้าขายทุเรียนเจ้าของคลิป ที่ 4 แยกไฟแดง ตำบลนาคำไฮ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ทราบชื่อคือนางสาวเกษดาว ฯอายุ 35 ปี ,และนางสาวชมพูนุช ฯอายุ 18 ปี อยู่ที่ ตำบลกุดดินจี่ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู
เล่าว่าตนเองกับลูกสาวมาปลูกเพิงขายทุเรียนตรงนี้ 3 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 11:00 น มีชายอายุประมาณ 50 ปี เดินเข้ามาที่ร้าน ควักเงินมา 20 บาท ขอซื้อทุเรียนบอกว่าอยากกิน ตนก็บอกไปว่า ทุเรียนราคา 20 บาทไม่มี ชายคนดังกล่าวพยายามอ้อนวอนบอกว่า ขายให้หน่อยอยากกิน เดี๋ยวจะบอกหวยให้ แต่นางสาวเกษดาว ฯ ปฏิเสธบอกว่าไม่ใช่คนเล่นหวย ชายคนดังกล่าวจึงหยิบทุเรียน 1 แพ็ค ราคา 300 บาท เดินหนีไป ตนกับลูกสาวจึงวิ่งตามไป เมื่อเข้าไปใกล้ๆชายคนดังกล่าวขว้างทุเรียนทั้งแพ็คลงบนพื้น พร้อมกับตะโกนบอกว่าเอาเงินคืนมา เดินหนีกลับไป ที่ศาลาที่พักผู้โดยสารซึ่งอยู่ห่างจากร้านประมาณ 30 เมตร และควักมีดออกมาข่มขู่จะทำร้ายตนเองและลูกสาว ตนจึงได้ถอยออกมา ชายคนดังกล่าวก็ได้ขี่จักรยานหลบหนีไป
นางสาวเกษดาว ฯได้กล่าวต่อว่า ตนตั้งสติได้จึงโทรศัพท์บอกสามี ที่ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งใกล้ๆกัน เมื่อสามีทราบข่าวก็ขับรถกลับมาหาที่ร้าน และตามชายที่ก่อเหตุ เมื่อไปทันก็มีการ ต่อว่าต่อขานกันก่อน และยึดเอามีด 2 เล่มมาด้วย ตนเองจึงได้โทรไปแจ้งตำรวจ แต่ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมา และชายคนนี้ก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ไม่น่าจะใช้คนแถวนี้ ตนเองจึงนำคลิปวีดีโอโพสเตือนภัย รู้สึกหวาดระแวงมากไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน สำหรับกล้องวงจรปิดนั้นมีทั้งหมด 4 ตัว สามีเป็นช่างไฟฟ้าจึงเอามาติดตั้งไว้เพื่อป้องกันเหตุร้าย ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.
ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เพื่อกิจการสื่อมวลชน เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ “ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด”