คืบหน้าข่าวชาวบ้านสุวรรรณคูหาร้องโดนยิงบ้าน 19 ครั้งคดีไม่คืบตำรวจบอกเข้าแจ้งความแค่ 1 ครั้งมุ่งปมตั้งสำนักสักยันต์และร้องเรียนคอกหมูส่งกลิ่นเหม็นแต่ประเด็นอื่นก็ไม่ติดทิ้ง  

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 สืบเนื่อง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสุวรรณ บัวโรย ประธานศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสมาคมส่งเสริมคุณธรรมตำรวจและช่วยเหลือประชาชน พานายกฤษ ชัยเสือ พร้อมด้วย น.ส.ศิริยากร แทนสมบัติ และครอบครัวรวม 8 ชีวิต นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอเหตุลอบยิงบ้านพัก ที่บ้านหินฮาว ต.นาสี อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู รวม 19 ครั้ง ตั้งแต่ เดือน ก.พ.66 -ปัจจุบัน  เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยมี พ.ต.ท.วิระ พรายอินทร์ รอง ผกก.กลุ่มงานแผนฯ นายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน

    นายกฤษ ฯ ผู้เสียหายได้กล่าวว่า คนร้ายสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ประมาณ 10 คน สลับหน้ากันครั้งละ 2-4 คน เข้ามาข่มขู่ถึงที่บ้านพัก รวมทั้งใช้อาวุธปืนมาก่อเหตุ โดยเชื่อว่าเกิดจากการที่ตนเองไปร่วมประชุมภายในหมู่บ้านที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับคอกหมูส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งคนในหมู่บ้านขอให้ตนเองช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหา

     ต่อมาในวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านหลังเกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก.สภ.สุวรรณคูหา พบว่ามีรอยที่ตัวบ้านบริเวณคอนกรีตด้านบนคล้ายๆกับโดนรอยกระสุน แต่ไม่พบนายกฤษฯ ผู้เสียหาย รับแจ้งว่าไปอยู่ที่บ้านอีกหลังที่ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี  

      โดยทางด้าน พ.ต.อ.ชนาธิป ภาโนมัย ผกก.สภ.สุวรรณคูหา ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากรับแจ้งความ เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ 1 ครั้ง และได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ และแนวทางการสอบสวน ตนเองก็ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เรื่อยมา และทางผู้เสียหายก็ไม่แน่ใจ ไม่ได้ระบุว่าใครเป็นคนลงมือ พยานหลักฐานยังไม่ชัดเจนเพียงพอ จะดำเนินคดีกับใครได้ ในพื้นที่ก็มีขนาดไม่ใหญ่ ไม่มีผู้มีอิทธิพล แต่มีเส้นทางเชื่อมโยงหลายเส้นทาง จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่  ส่วนสาเหตุพิพาทเรื่องคอกหมู ที่ผู้เสียหายพาชาวบ้านร้องเรียน  เจ้าของคอกหมูก็เป็นญาติกัน คงไม่ลงมือทำรุนแรงขนาดนั้น จึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่ทางเจ้าของคอกหมูจะเป็นผู้ก่อเหตุ  

     และที่ผ่านมา นายกฤษ ฯ ผู้เสียหายได้เปิดเป็นสำนักสักยันต์ มีคนเข้าออกที่สำนักเป็นจำนวนมาก มีการสะเดาะเคราะห์ ,ทำบุญแก้กรรม ,เสริมดวง ต่อชะตา ฯลฯให้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย และมีการเรียกเก็บเงินเป็นค่าคาย ( ค่ายกครู ) กับผู้ที่เข้ามา  อีกทั้งก่อนหน้านี้ทางผู้เสียหายได้ไปบวชพระ 2 ครั้ง หลังสึกออกมาได้เลิกกับภรรยา และกลับไปบวชอีก และไปเรียนสักยันต์ และสึกออกมาประกอบอาชีพสักยันต์ในหมู่บ้าน ส่วนสาเหตุจะเป็นเรื่องความขัดแย้งเรื่องสักยันต์หรือไม่ ยังไม่ยืนยันแต่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานในทุกประเด็น ยืนยันทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

     จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่คอกหมูของ นายฉลาด ฯ อายุ  57 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของคอกหมูที่ถูกพาดพิง ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณเกือบ 200 เมตร ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนเองพึ่งทราบข่าวก็งงเหมือนกัน ว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัย ตนเองไม่ใช่คู่กรณี หรือคู่ขัดแย้งที่รุนแรง จะไปทำแบบนั้น ซึ่งตนเองมีศักดิ์เป็นลุงของ นายกฤษฯผู้เสียหาย ซึ่งก่อนหน้านายกฤษฯ ก็ได้มาขอมูลอุจจาระของหมู และวัวไปใส่ปุ๋ยต้นไม้ ส่วนเรื่องหมูอุจจาระส่งกลิ่นเหม็น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ออกมาตรวจสอบแล้ว คอกหมูของตนเองเลี้ยงหมูประมาณ 10 กว่าตัว ไม่ได้เยอะอะไร และห่างจากหมู่บ้านกว่า 200 เมตร แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า น่าจะมีกลิ่น และเสียงเล็ดลอดออกไปบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ และตนเองพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ถ้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบ ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.

#ภาพ/ข่าวและเนื้อหานี้ เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่องานประชาสัมพันธ์ ไม่แสวงหาผลกำไรในทางการค้า.